Lazy Portfolio คืออะไร
Lazy Portfolio คือ การจัดพอร์ตลงทุนระยะยาว โดยเข้าไปซื้อสินทรัพย์ต่างๆ แล้วถือไว้ เพื่อรอให้ผลตอบแทนงอกเงย (Buy & Hold Strategy) ซึ่งเป็นการลงทุนแบบเคลื่อนไหวน้อยที่สุด ไม่เน้นการเก็งตลาด ลดพอร์ต หรือสับเปลี่ยนกลยุทธ์การลงทุน ด้วยการพยายามสร้างพอร์ตการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสอดคล้องกับตลาดภาพรวม
Lazy Portfolio ต่างจากการลงทุนแบบ Active ที่เน้นเอาชนะตลาด และแบบ VI ที่คอยหาจังหวะเข้าซื้อหุ้นเมื่อราคาเหมาะสม
![](https://static.wixstatic.com/media/645299_855dc383513748938355b738f0a22a91~mv2.jpg/v1/fill/w_740,h_684,al_c,q_85,usm_0.66_1.00_0.01,enc_auto/645299_855dc383513748938355b738f0a22a91~mv2.jpg)
ตัวอย่าง Lazy Portfolio
![](https://static.wixstatic.com/media/645299_a75dcc56081a4bb39c504232b36c5601~mv2.png/v1/fill/w_740,h_681,al_c,q_90,usm_0.66_1.00_0.01,enc_auto/645299_a75dcc56081a4bb39c504232b36c5601~mv2.png)
อยากสร้าง Lazy Portfolio เริ่มอย่างไร
1. วางเป้าหมายการลงทุนระยะยาว (Long-Term Target)
เงินที่จะนำมาลงทุนควรเป็นเงินเย็นสำหรับลงทุนระยะยาวนานกว่า 5 ปี เช่น เป็นเงินสำหรับช่วงเกษียณ
2. คิดเรื่องการจัดสรรสินทรัพย์ (Asset Allocation)
การจัดสรรสินทรัพย์การลงทุนไปในสินทรัพย์ประเภทต่างๆ เช่น หุ้น ตราสารหนี้ หรือสินทรัพย์ทางเลือกอื่นๆ ไม่เพียงช่วยกระจายความเสี่ยง แต่ยังส่งผลต่อแนวโน้มผลตอบแทนของพอร์ตการลงทุนด้วย เนื่องจากไม่มีสินทรัพย์ใดสินทรัพย์หนึ่งที่ให้ผลตอบแทนดีที่สุดตลอดไป โดยการจัดสรรการลงทุนควรคิดใน 2 มุม คือเรื่องเปอร์เซ็นต์สัดส่วนสินทรัพย์ที่เราต้องการลงทุน และจำนวนเงินที่เราต้องการลงทุนในสินทรัพย์แต่ละประเภท
3. กระจายการลงทุน (Diversification)
เมื่อวางแผนจัดสรรสินทรัพย์สำหรับลงทุนแล้ว การกระจายการลงทุนในแต่ละสินทรัพย์ก็มีความสำคัญ เช่น หากต้องการลงทุนในตราสารหนี้ 40% เราไม่ควรลงทุนทั้งหมดในกองทุนตราสารหนี้เพียงกองเดียว แต่อาจแบ่งสัดส่วนออกไปลงทุนในกองทุนตราสารหนี้ 2-3 กอง หรือหากลงทุนในหุ้นรายตัว ก็ต้องมีการกระจายความเสี่ยงในหลากหลายอุตสาหกรรม เป็นต้น
4. ควรปรับสมดุลพอร์ตการลงทุน (Rebalance) ทุกปี
เนื่องจากสินทรัพย์แต่ละประเภทมีความแตกต่างกัน ทั้งเรื่องอัตราการเติบโต ผลตอบแทนและความผันผวน หากสินทรัพย์ใดเติบโตมากกว่าอีกสินทรัพย์หนึ่ง อาจส่งผลให้สัดส่วนการลงทุนที่เราตั้งเป้าหมายไว้เปลี่ยนแปลงได้ ดังนั้นจึงต้องปรับสมดุลของพอร์ตการลงทุน เพื่อให้สัดส่วนการลงทุนในสินทรัพย์แต่ละประเภทเป็นไปตามที่วางแผนไว้ ทั้งเรื่องผลตอบแทนที่คาดหวังและการปรับระดับความเสี่ยงให้เหมาะสมกับสถานการณ์