LVMH มีชื่อเต็มว่า Moët Hennessy – Louis Vuitton เป็นเครือธุรกิจที่มีแบรนด์หลากหลาย และเป็นเจ้าของแบรนด์แฟชั่นชื่อดังระดับโลกมากมาย ก่อตั้งในปี 1987 โดยเกิดจากการควบรวมกันระหว่าง Louis Vuitton ซึ่งเป็นแฟชั่นเฮาส์ และ Moët Hennessy ซึ่งมาจาก Moët & Chandon ผู้ผลิตแชมเปญ และ Hennessy ผู้ผลิตสุราคอนญัค
ธุรกิจ LVMH มีอะไรบ้าง
ธุรกิจในเครือ LVMH แบ่งเป็น 5 กลุ่ม คือ
- แฟชั่นและสินค้าเครื่องหนัง
- ร้านค้าปลีก
- นาฬิกาและเครื่องเพชร
- น้ำหอมและเครื่องสำอาง
- ไวน์และสุรา
ลักษณะการดำเนินธุรกิจของ LVMH เป็นรูปแบบเครือใหญ่ที่ประกอบไปด้วยธุรกิจของแต่ละแบรนด์ โดยปล่อยให้แต่ละหน่วยดำเนินธุรกิจเป็นไปตามความเหมาะสมและลักษณะเฉพาะของแบรนด์นั้นๆ โดยหน่วยที่เติบโตได้ดีที่สุดคือกลุ่มร้านค้าปลีก (Selective Retailing) ซึ่งมีการขยายตัวของรายได้อยู่ที่ 26% ในปี 2022 ตามมาด้วยกลุ่มสินค้าแฟชั่นและเครื่องหนัง (Fashion and Leather Goods) ด้วยอัตราการเติบโต 25%
![](https://www.piknowledge.co/wp-content/uploads/2023/07/image-8.png)
หุ้น LVMH
หุ้นของ LVMH จดทะเบียนซื้อขายอยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 1990 ใช้ชื่อหุ้นว่า MC อยู่ในดัชนี CAC40 หุ้นใหญ่ที่สุด 40 ตัวแรกของฝรั่งเศส
นอกจากนี้ หุ้น LVMH ยังซื้อขายได้ในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ในรูปแบบ American Depositary Receipts (ADR) ใช้ชื่อหุ้นว่า LVMUY
ราคาหุ้น LVMH (ADR ในตลาดสหรัฐฯ)
ตัวอย่างแบรนด์ในเครือ LVMH มีอะไรบ้าง
![](https://www.piknowledge.co/wp-content/uploads/2023/07/image-9.png)
แนวโน้มรายได้และกำไร
LVMH มีรายได้ในปี 2022 อยู่ที่ 7.9 หมื่นล้านยูโร (ราว 3.07 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้น 23% เทียบปีก่อนหน้า และเป็นรายได้สูงสุดสถิติใหม่ของบริษัท ขณะที่กำไรขั้นต้นอยู่ที่ 5.4 หมื่นล้านยูโร (ราว 2.1 ล้านล้านบาท) ทั้งนี้เป็นเพราะการซื้อสินค้าที่เพิ่มขึ้นมากกว่าปกติหลังโควิด-19 อย่างไรก็ตามในปี 2023 คาดว่าการเติบโตจะลดลงเข้าสู่ระดับปกติ โดยข้อมูลจาก Morningstar Research คาดการณ์แนวโน้มรายได้ของ LVMH ปี 2023 ว่า
- แบรนด์ Louis Vuitton จะเติบโตได้ดีกว่ากลุ่มสินค้าเครื่องหนัง 3% จากแรงหนุนของการมีงบทำการตลาดมากกว่า ชื่อเสียงของแบรนด์ที่ดีกว่า และมีอำนาจในการตั้งราคาสินค้า
- การขยายตัวจะเป็นระดับปานกลางในปีต่อๆ ไป เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวในสหรัฐฯ
- กลุ่มไวน์และสุราจะเติบโตประมาณ 4-5% ได้แรงหนุนจากทั้งปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นและการปรับขึ้นราคาขาย จากเทรนด์ผู้บริโภคดื่มสุราระดับพรีเมียมและเครื่องดื่มแชมเปญมากขึ้น
- กลุ่มน้ำหอมและเครื่องสำอางจะเติบโตในระดับ 4-5% ไปทุกปีในตลอด 10 ปีข้างหน้า แต่ Margin ของกลุ่มนี้ยังอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับผู้นำในอุตสาหกรรมเดียวกัน เพราะ LVMH มีผลิตภัณฑ์หลายกลุ่ม มีสเกลน้อยกว่า อีกทั้งยังอยู่ในช่วงการลงทุนเพื่อกระตุ้นการเติบโตด้วย
- กลุ่มค้าปลีกจะเติบโตได้ประมาณ 8% เพราะฐานต่ำของปี 2022
- กลุ่มนาฬิกาและเครื่องเพชระเติบโต 5-6% โดยแบรนด์ Tiffany จะเติบโตในระดับ High-single-digit และ Margin จะเพิ่มขึ้นเป็นช่วงกลางๆ หลัก 20%
![](https://www.piknowledge.co/wp-content/uploads/2023/07/image-10.png)
ปัจจัยที่ต้องพิจาณาสำหรับการลงทุน
ปัจจัยบวก
- Louis Vuitton ควบคุมระบบการจัดจำหน่ายอย่างครบวงจร ซึ่งเป็นผลดีต่ออัตรากำไร และมูลค่าของแบรนด์
- การเข้าซื้อ Christian Dior Couture ทำให้เครือ LVMH มีพอร์ตฟอลิโอในธุรกิจกลุ่มแฟชั่นและเครื่องหนังที่หลากหลายยิ่งขึ้นด้วยแบรนด์ที่แข็งแกร่งและกำลังเติบโตได้อย่างรวดเร็ว
- หลายแบรนด์ในเครือของ LVMH เป็นผู้นำในกลุ่มอุตสาหกรรมของตัวเองอยู่แล้ว และมีการขยายตัวที่เหนือกว่ากลุ่มอุตสาหกรรม อีกทั้งมีมาร์เก็ตแชร์โดดเด่นด้วย
ปัจจัยที่ต้องระวัง
- การทำงานร่วมกัน (Synergy) ในด้านต้นทุนและรายได้ระหว่างกลุ่มธุรกิจยังมีอยู่อย่างจำกัด
- แบรนด์เล็กๆ จำนวนหนึ่งในกลุ่มธุรกิจแฟชั่นและสินค้าเครื่องหนังยังเป็นตัวฉุดผลประกอบการของทั้งเครือ ขณะที่กลุ่มค้าปลีกมีอัตรากำไรที่อยู่ในระดับต่ำ
- ถึงแม้ว่ามีหลายแบรนด์อยู่ในเครือ แต่มีบ่อยครั้งที่ LVMH เข้าซื้อธุรกิจที่มีแบรนด์แข็งแกร่งด้วยเงินลงทุนมหาศาล ทำให้ผลตอบแทนจากเงินลงทุนลดลง
![](https://www.piknowledge.co/wp-content/uploads/2023/07/image-11.png)
ตารางสรุปงบ LVMH
![](https://www.piknowledge.co/wp-content/uploads/2023/07/image-12.png)
![](https://www.piknowledge.co/wp-content/uploads/2023/07/image-13.png)
หากสนใจหุ้นบริษัท LVMH สามารถลงทุนผ่านทางกองทุนรวม โดยมีตัวอย่างกองทุนรวม เช่น ASP-TOPBRAND ซึ่งลงทุนในบริษัทที่มีแบรนด์แข็งแกร่งและสามารถสร้างกำไรได้ในทุกสภาวะเศรษฐกิจ
เปิดบัญชีกองทุนรวมกับบล.พาย หรือขอคำปรึกษาเพิ่มเติม สามารถติดต่อฝ่าย Selling Agent หมายเลขโทรศัพท์ 02-205-8884