Skip to content

Contents

เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) กลายเป็นปัจจัยใหม่ที่นักลงทุนให้ความสนใจในช่วงที่ผ่านมา ส่งให้ราคาหุ้นที่เกี่ยวข้องพุ่งทะยานทั้งในกลุ่มผู้ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ เช่น NVIDIA (NVDA: US) และกลุ่มผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ แต่ที่น่าจับตาที่สุดคือศึกระหว่าง Microsoft (MSFT) และ Alphabet (GOOGL) สองบริษัทซึ่งเป็นผู้นำกลุ่มจากการเป็นจ้าวแห่งระบบปฏิบัติการ ลองมาดูกันว่าในศึก AI ที่กำลังร้อนแรงในขณะนี้ ใครมีไพ่อะไรอยู่ในมือ และใครมีโอกาสเป็นผู้ชนะในระยะยาว

Microsoft vs Alphabet มีอะไรในมือบ้าง

ด้วยลักษณะธุรกิจของทั้ง Microsoft และ Alphabet (Google) เป็นรูปแบบซอฟต์แวร์และมีระบบนิเวศ (Ecosystem) ขนาดใหญ่ และมักจะขยายธุรกิจหรือบริการใหม่ๆ เพื่อการเติบโตของรายได้และกำไรอย่างสม่ำเสมอ ทำให้มีโอกาสได้ประโยชน์จาก AI ในหลายทาง โดยส่วนที่เริ่มเห็นผลแล้วคือธุรกิจคลาวด์ เพราะเมื่อดีมานด์การใช้เทคโนโลยี AI เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว อุปสงค์สำหรับคลาวด์ที่ใช้เก็บข้อมูลและประมวลผลก็สูงขึ้นตามไปด้วย

เริ่มจากของ Microsoft ธุรกิจของพึ่งพาหน่วยคลาวด์เป็นสัดส่วนประมาณ 40% ของรายได้ทั้งหมด โดยในไตรมาส 2/2024 (เดือน ต.ค.-ธ.ค. 2023) รายได้หมวดคลาวด์มีการเติบโต 20% เทียบปีที่แล้ว โดดเด่นเหนือธุรกิจหมวดอื่นของบริษัท โดยได้ปัจจัยหนุนจากดีมานด์ Azure ที่แข็งแกร่ง ซึ่งปัจจุบัน Azure มีมาร์เก็ตแชร์ของตลาดคลาวด์เป็นอันดับสองรองจาก Amazon Web Services (AWS) ของบริษัท Amazon (AMZN: US)

ส่วนของ Alphabet พึ่งธุรกิจคลาวด์เป็นสัดส่วน 11% จากรายได้ทั้งหมด โดยในช่วงไตรมาส 4/2023 การเติบโตของรายได้ส่วนนี้อยู่ที่ 25%

นอกจากนี้ Microsoft และ Alphabet ยังมีความสามารถที่จะพัฒนาเทคโนโลยี Generative AI ซึ่งเป็นการประมวลผลและสร้างใหม่ในรูปแบบแชตบอต หรือเป็นการให้ผู้ใช้สั่งการและให้โปรแกรมประมวลผลและตอบคำถามหรือทำสิ่งอื่นๆ เช่น เขียนรายงาน หรือเขียนจดหมาย ไปจนถึงการสร้างวิดีโอและทำดนตรีออกมาก็ทำได้

เริ่มจากฝั่ง Microsoft มีโปรแกรม Copilot ซึ่งพัฒนาต่อยอดจาก Bing ซึ่งเป็นระบบ Search Engine คู่แข่งของ Google และนอกจากนี้บริษัทยังได้เข้าลงทุนใน OpenAI บริษัทผู้พัฒนา ChatGPT ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกวงการแชตบอต

ขณะที่ Alphabet อาจดูเป็นรอง แต่ก็มีไพ่มาสู้เหมือนกัน โดยปีที่แล้วได้เปิดตัว Bard แชตบอตในลักษณะเดียวกับ ChatGPT และ Copilot ก่อนจะอัปเกรดใหม่และเปลี่ยนชื่อเป็น Gemini และขณะเดียวกันยังได้เริ่มทดสอบ MusicFX เครื่องมือทำเสียงดนตรี และ ImageFX เครื่องมือสร้างรูปภาพ

Microsoft vs Alphabet ลงทุนหุ้นไหนดี

จากการเป็นธุรกิจ Ecosystem การใช้ AI เป็นส่วนหนึ่งของผลิตภัณฑ์ ทำให้ทั้งสองบริษัทมีโอกาสสร้างรายได้มากขึ้น แต่ทั้งนี้ Microsoft อาจดูได้เปรียบกว่า เพราะออกตัวขึ้นนำไปก่อนแล้วจากการเข้าลงทุนใน ChatGPT ซึ่งเป็นผู้นำตลาด Gen AI อีกทั้งมีธุรกิจซอฟต์แวร์ เช่น Office 365 ธุรกิจคลาวด์ และธุรกิจวิดีโอเกม ซึ่งถ้าหากสามารถนำ AI มาพัฒนาเป็นจุดขายให้กับผลิตภัณฑ์ก็มีโอกาสทำรายได้และกำไรให้เติบโตได้ในระยะยาว

ขณะที่ Alphabet อาจดูเป็นฝ่ายตามหลัง แต่ถือไพ่ใหญ่คือการเป็นจ้าวแห่งตลาดระบบปฏิบัติการสมาร์ทโฟนและตลาด Search Engine จึงสามารถใช้ประโยชน์ AI ทั้งการพัฒนาฟีเจอร์และ Gen AI เช่น Gemini ช่วยเพิ่มฐานผู้ใช้ได้ และยิ่งมีโอกาสดีขึ้นไปอีกถ้าหากว่าสามารถตกลงกับ Apple (AAPL: US) ในการใช้ Gemini เป็นส่วนหนึ่งของ iPhone หากไม่เผชิญแรงต้านจากภาครัฐที่มองว่าเป็นการผูกขาด เพราะปัจจุบัน Google ได้ฐานผู้ใช้ iPhone จากการเป็น Search Engine ค่าอัตโนมัติของบราวเซอร์ Safari อยู่แล้ว

ในมุมของการเติบโตของรายได้และกำไร MSFT ดูมีแนวโน้มดีกว่า GOOGL อยู่เล็กน้อย โดยข้อมูลจาก Bloomberg Consensus คาดการณ์ว่า การเติบโตของรายได้ MSFT สำหรับงบปี 2024 และ 2025 จะอยู่ที่ 15.4% และ 14.3% ตามลำดับ และคาดว่าการเติบโตของรายได้ GOOGL งบปี 2024 จะอยู่ที่ -3.7% และ 14.1% ตามลำดับ ขณะที่คาดการณ์การเติบโตของกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) ของ MSFT ของงบปี 2024 และ 2025 อยู่ที่ 20% และ 14.4% ตามลำดับ ส่วนคาดการณ์การเติบโตของ EPS ของ GOOGL สำหรับปี 2024 และ 2025 อยู่ที่ 17.7% และ 14.8% ตามลำดับ

Source: Bloomberg
Source: Bloomberg

อย่างไรก็ดี ในมุมของ Valuation หุ้น MSFT อยู่ในระดับสูงกว่าพอสมควรด้วย P/E Trailing อยู่ที่ 43.8 เท่า และ P/E Forward อยู่ที่ 35.5 เท่า ขณะที่ P/E Trailing ของหุ้น GOOGL อยู่ที่ 27 เท่า และค่า P/E Forward อยู่ที่ 22.2 เท่า แต่จากคำแนะนำของ Bloomberg Consensus หุ้น MSFT มีราคาเป้าหมายเฉลี่ยอยู่ที่ US$470.82 อัพไซด์ +10.52% สูงกว่าเล็กน้อยเมื่อเทียบกับ GOOGL ซึ่งมีราคาเป้าหมายเฉลี่ยอยู่ที่ US$166.83 อัพไซด์ +6.53% อิงตามข้อมูลล่าสุดวันที่ 10 เม.ย. 2024

สรุป

MSFT อาจดูได้เปรียบกว่าในศึก AI ที่กำลังดุเดือดอยู่ในขณะนี้จากการเปิดตัวของ ChatGPT และมีแนวโน้มการเติบโตที่ดูดีกว่าเล็กน้อย อีกทั้งอัพไซด์ดูเปิดกว้างกว่า แต่อย่างไรก็ดี GOOGL ก็มีธุรกิจใหญ่และมีศักยภาพที่จะพัฒนาเทคโนโลยีเหมือนกัน และ Valuation อยู่ในระดับไม่แพงเท่ากับ MSFT อย่างไรก็ตามแม้จะสรุปได้ยากในปัจจุบันว่าใครจะเป็นผู้ชนะในศึก AI แต่ทั้ง 2 บริษัทถือว่าเป็นผู้นำในเทคโนโลยี Generative AI และมีโอกาสเติบโตจากแนวโน้มการใช้ AI ในชีวิตประจำวันมากขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นโอกาสที่ดีในการลงทุน

คำแนะนำและราคาเป้าหมาย

===============

‍‍‍‍‍‍🌟ติดตามสาระและความรู้เกี่ยวกับการลงทุนเพิ่มเติม

https://www.piknowledge.co

===============

ช่องทางการติดตาม Pi Securities

• Website: https://www.pi.financial

• Facebook: https://bit.ly/38ZpLhq

• Youtube: https://bit.ly/3NEEmgV

• Blockdit: Blockdit.com/pisecurities

• Line@: https://bit.ly/3I2cCk7

• Telegram: https://t.me/pisecurities

เพื่อความสะดวกรวดเร็วในกรณีต้องการความช่วยเหลือ ท่านสามารถติดต่อ “ทีม Customer Support” บล.พาย ได้ผ่านช่องทางแชทด้านล่าง

Line: https://bit.ly/3I2cCk7

E-mail: [email protected]