Skip to content

Contents

หลักคิดพื้นฐานของ วอร์เรน บัฟเฟตต์

แนวคิดหลักของวอร์เรน บัฟเฟตต์ คือ ซื้อบริษัทที่ยอดเยี่ยมในราคาที่เข้าท่า สามารถคาดการณ์ผลกำไรในอนาคต และต้องมีความน่าเชื่อถือ ทำตัวเสมือนเป็นเจ้าของธุรกิจร่วมในระยะยาว

เคล็ดลับการเลือกซื้อธุรกิจที่ทำให้บัฟเฟตต์ประสบความสำเร็จ

  • เลือกบริษัทที่ผลกำไรในอนาคตของบริษัทนั้นต้องคาดการณ์ได้ (มุ่งเน้นบริษัทที่ผลกำไรที่ค่อนข้างแน่นอน)
  • เลือกบริษัทที่สามารถสร้างกระแสเงินสดได้มหาศาล (บริษัทที่มีกระแสเงินสดมากจะมีศักยภาพในการจ่ายค่ารักษาสถานภาพทำงานปัจจุบัน และยังสามารถนำไปต่อยอดเพื่อลงทุนธุรกิจใหม่ หรือขยายธุรกิจเดิมได้)
  • ธุรกิจที่มีสินค้าที่ผูกขาด (แสดงให้เห็นว่าธุรกิจมีความได้เปรียบทางการแข่งขัน)
  • ซื้อหุ้นในช่วงที่ราคาต่ำ (ส่วนต่างยิ่งมากระหว่างราคาซื้อกับมูลค่าที่แท้จริงเท่าไร จะยิ่งทำให้ได้รับผลตอบแทนที่ยิ่งมากขึ้น)
  • ซื้อเมื่อหุ้นราคาต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงอย่างน้อย 15% (Margin of Safety)
  • มองหาและจดรายชื่อของบริษัทที่ต้องการลงทุนไว้ก่อนเสมอ

9 คำถามในการเลือกบริษัทชั้นเลิศแบบวอร์เรน บัฟเฟตต์

  1. เป็นธุรกิจสินค้าผูกขาด หรือไม่          
  2. ผลกำไรแสดงให้เห็นแนวโน้มการเติบโต หรือไม่
  3. บริษัทมีโครงสร้างทางการเงินที่มั่นคง หรือไม่
  4. มีอัตราผลตอบแทนของผู้ถือหุ้นที่สูงอย่างสม่ำเสมอ หรือไม่
  5. สามารถเก็บรักษาผลกำไรไว้เป็นกำไรสะสม หรือไม่
  6. มีค่าใช้จ่ายเพื่อรักษาสถานะการดำเนินงานมากน้อยเพียงใด
  7. ผู้บริหารมีอิสระในการตัดสินใจ หรือไม่
  8. สามารถปรับราคาตามภาวะเงินเฟ้อได้ หรือไม่
  9. เมื่อเวลาผ่านไปมูลค่าของบริษัทเพิ่มขึ้น หรือไม่

กฎเหล็ก : ธุรกิจชั้นเลิศต้องมีโครงสร้างทางการเงินที่แข็งแกร่ง และมีอิสระในการปรับราคาสินค้าหรือบริการตามอัตราเงินเฟ้อ

พลังแห่งผลตอบแทนทบต้น

วอร์เรนต้องการให้ผลตอบแทนทบต้นเกิดขึ้นเรื่อยๆ ตราบนานเท่านาน ซึ่งที่จริงแล้วเขาสามารถขายหุ้นและทำกำไรอย่างงดงามในระยะเวลาอันสั้นอย่างง่ายดาย แต่สิ่งที่เขาต้องการคือผลกำไรที่สามารถทำให้เขาเป็นหนึ่งในบุคคลที่รวยที่สุดในโลก ซึ่งการที่จะร่ำรวยแบบนั้นได้ คุณจะต้องทำให้เงินลงทุนของคุณได้รับผลตอบแทนทบต้นในอัตราที่สูงตลอดเวลาสม่ำเสมอและยาวนาน

รู้หรือไม่ ? : วอร์เรน บัฟเฟตต์ จะไม่ขายหุ้นโดยใช้ปัจจัยราคาหุ้นแป็นอันดับแรก เน้นดูที่ศักยภาพการเติบโตของธุรกิจ แนวโน้มของกำไรเพิ่มขึ้นหรือลดลง เพราะจะมีผลต่อราคาหุ้นโดยตรง และจะตัดสินใจขายหุ้นต่อเมื่อธุรกิจนั้นไม่มีแนวโน้มการเติบโตอีกต่อไป

===============

‍‍‍‍‍‍🌟ติดตามสาระและความรู้เกี่ยวกับการลงทุนเพิ่มเติม

https://www.piknowledge.co

===============

ช่องทางการติดตาม Pi Securities

• Website: https://www.pi.financial

• Facebook: https://bit.ly/38ZpLhq

• Youtube: https://bit.ly/3NEEmgV

• Blockdit: Blockdit.com/pisecurities

• Line@: https://bit.ly/3I2cCk7

• Telegram: https://t.me/pisecurities

เพื่อความสะดวกรวดเร็วในกรณีต้องการความช่วยเหลือ ท่านสามารถติดต่อ “ทีม Customer Support” บล.พาย ได้ผ่านช่องทางแชทด้านล่าง

Line: https://bit.ly/3I2cCk7

E-mail: [email protected]